7/07/2553

วิจัยพบ!!! ไม้เรียวทำ ปัญญาเสื่อม

นักวิจัยมหาวิทยาลัยนิว แฮมป์เชียร์ของสหรัฐฯ กล่าวเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายว่า

การลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีเด็กจะทำให้เด็กสมองเฉื่อย ล้าหลังกว่าเพื่อนที่ไม่ถูกลงโทษแบบนั้น

รายงานผลการวิจัยเสนอต่อที่ประชุมนักการศึกษาอเมริกา กล่าวว่า "พ่อแม่ทุกคนล้วนแต่ต้องการลูกที่เฉลียวฉลาด จึงไม่ควรใช้วิธีลงโทษด้วยการเฆี่ยนตี หากแต่ควรอบรมบ่มนิสัยวิธีอื่น" ศาสตราจารย์เมอเรย์ สเตราส์ หัวหน้านักวิจัยกล่าวเสริมว่า "ผลการวิจัยจะมีผลเกี่ยวพันอย่างสำคัญกับสวัสดิภาพของ เด็กทั่วทั้งโลก ถึงเวลาแล้วที่นักจิตวิทยาจะตระหนักถึงความจำเป็นที่ จะต้องช่วยพ่อแม่ต่างๆให้เลิกลงโทษด้วยการเฆี่ยนตี และหาวิธีสั่งสอนอย่างอื่นแทน"

อาจารย์เมอเรย์แจ้งว่า จากการศึกษาเด็กในอเมริกาที่ถูกพ่อแม่เฆี่ยนตี ปรากฏว่ามีระดับเชาวน์ปัญญาต่ำกว่าเพื่อนที่ไม่ถูกพ่ อแม่ลงโทษเช่นนั้นถึง 4 ปี เช่น เด็กวัยระหว่าง 2-4 ขวบที่ถูกเฆี่ยนตี จะมีระดับเชาวน์ปัญญาต่ำกว่าเพื่อนที่ไม่โดนไม้เรียว ถึง 5 คะแนน

7/04/2553

10เหตุการที่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง

เหตุการณ์ ที่1 เครื่องบินสีทอง
จากจำนวนวัตถุลึกลับเกี่ยวกับจานบิน ชิ้นนี้ดังที่สุด ซึ่งถูกพบในโคลัมเบีย อเมริกาใต้ มีอายุมากกว่า 1000 ปี มีลักษณะเหมือนเครื่องบินเจ็ทปีกเป็นรูปสามเหลี่ยมขอ งยุคปัจจุบัน มีที่นั่งนักบินอยู่ตรงส่วนหัวและมีหางเหมือนเครื่อง บินปัจจุบันด้วย ซึงแน่นอนชาวพื้นเมืองในโคลัมเบียคงไม่สามารถสร้างเค รื่องบินนี้แน่ โดยเฉพาะเมื่อ 1000 ปีก่อน
อาจเป็นไปได้ว่ามนุษย์ต่างดาวได้เดินทางมาถึงอเมริกา ใต้ ในยานอวกาศใต้ ในยานอวกาศที่มีรูปร่างเหมือนเครื่องบินเจ็ทตั้งแต่เ มื่อ 1000 ปีมาแล้ว และคงสร้างยานลำนี้ไว้เป็นที่ระลึก
เหตุการณ์ที่2 เด็กเขียว
ในเดือนสิงหาคม 1887 ในสเปน มีเด็กสองคน ซึ่งมีผัวหนังสีเขียวเป็นมันวาว และมีดวงตารีเฉียง เดินออกมาจากถ้ำแห่งหนึ่ง เด็กสองคนนั้นสวมเสื้อผ้าที่ทำจากวัตถุประหลาด และพูดภาษาประหลาดที่ผู้วชาญภาษาจากบาร์เซโลนาไม่เข้ าใจ และไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นภาษาอะไร เด็กชายที่เป็นผู้ชายตายก่อน ส่วนเด็กผู้หญิงยังอยู่ต่อมาและหัดพูดภาษาสเปนได้จนค ล่องเธอเล่าว่าเธอถูกนำ มาจากดินแดนแห่งหนึ่งซึ่งมีแต่ยามสนธยามีพระอาทิตย์ข ึ้น และถูกหอบมาทิ้งไว้ที่ถ้ำนั่น
ดินแดนที่ว่านั้น เป็นดินแดนของดาวอีกดวงหนึ่งใช่หรือไม่ หรือว่าพวกเธอถูกส่งตัวมายังโลกด้วย ยาวอวกาศหรือเปล่า หรืออาจมาจากมิติที่สี่ก็เป็นได้
เหตุการณ์ที่ 3 การระเบิดที่ไซบีเรีย
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 1908 มีการระเบิดอย่างรุนแรงเกิดขึ้นที่ไซบีเรีย เป็นแรงระเบิดที่รุนแรงกว่าฮิโรชิม่าถึง 10 เท่าดังไปค่อนโลก มีบางคนบอกว่า ตนเองได้เห็นแสงไฟและเห็นควันรูปเห็ด อย่างไรก็ตามผลสุดท้ายสาเหตุการระเบิด ไม่มีใครทราบแน่ชัด
ในปี 1927 นักวิทยาศาสตร์ชาวโซเวียต ได้ออกทำการสำรวจและพบบริเวณที่เกิดการระเบิดนั้น ซึ่งกินบริเวณกว้างขวางถึง 800 ตารางไมค์ จากการลงความเห็นของผู้วชาญ แรงระเบิดนั้น ไม่ใช้เพราะอุกาบาตรแน่ มีบางคนบอกว่ามันอาจเป็นดาวหาง อาจเป็นเสี่ยวหนึ่งของหลุมดำ หรืออาจเป็นแสงเลเซอร์จากดวงดาวอื่นก็ได้
อเล็กซานเดอร์ คาซานท์เซฟ วิศวกรด้านอาวุธของรัสเซียลงความเห็นว่า มันเป็นพวกยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งขณะบินทำการสำรวจโลก ตกลงมา และเกิดระเบิดขึ้น
เหตุการณ์ ที่ 3 สัญญาณวิทยุจากมนุษย์ต่างดาว
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 นักดาราศาสตร์โครงการ ซีคลอปส์ (Cyclops) ได้รับสัญญาณที่ซับซ้อนกว่าเสียงสะท้อนใดๆ ในโลกนี้ มันเป็นโทนเสียงขึ้นๆ ลงๆ ผสมผสานกันอย่างซับซ้อน พร้อมโครงสร้างจังหวะ รวมไปถึงเสียงที่ไม่เคยมีมนุษย์ได้ยินมาก่อนรวมอยู่ด ้สน ซึ่งสัญญาณนี้ระบุว่ามาจากดาวออฟิยูซิ ซึ่งอยู่ห่างจากโลกราว 17 ปีแสง ทำให้เชื่อกันว่าเป็นสัญญาณวิทยุจากมนุษย์ต่างดาวซึ่ งมีอารยธรรมสูงกว่าเรา
เหตุการณ์ที่ 4 เมื่อมนุษย์ต่างดาวเป็นฆาตกร
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2491 รัฐเคนตักกี้ อเมริกา เรืออากาศเอก โธมัส แมนเทลล์ จูเนียร์ ได้ขับเครื่องบินซี 118 แถวน่านฟ้าของเมืองแมรีส์วิลล์ เพื่อไปตรวจสอบการพบเห็น UFO ส่องแสงขนาดใหญ่ และเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ และเงียบเชียบข้ามท้องฟ้า ซึ่งทางฐานทัพก็จับสัญญามันได้เช่นกัน
แมนเทลล์ขับแล้วไปเจอ UFO ลำนั้นทันที เขารายงานวัตถุนั้นต่อศูนย์เป็นระยะในการติดตาม “พระเจ้า! มันน่ามหัศจรรย์ มันอยู่เหนือผมพอดี และมันใหญ่โตมโหฬารมาก มันดูเหมือนโลกหะรูปกลมใหญ่มาก ผมกำลังพยายามไปให้ถึงมัน มันกำลังบินสูง มันเริ่มบินสูง.... พระเจ้า! มันน่ามหัศจรรย์มาก! มันเริ่มร้อน มันร้อน ร้อนมากทีเดียว ผมทำไม่...”จากนั้นสัญญาณก็ถูกตัด
เวลาต่อมา มีการพบซากเครื่องบนและศพของเรืออากาศเอกแมนเทลล์ มีรายงานว่าซากเครื่องบินมีรูและรอยขีดข่วงจากความร้ อนสูง เหมือนกับว่าเครื่องบินถูกทำลายจากรังสีบางอย่าง
ปัจจุบันการตายของแมนเทลล์ยังเป็นปริศนาต่อไป ว่าสิ่งที่เขาพบนั้นคือ UFO จริงหรือไม่?
เหตุการณ์ ที่ 5 แอเรีย 51 (Area 51)
พื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในกลางทะเลทรายทางตอนใต้ของรั ฐแคลิฟอร์เนีย เนวาด้า และอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ปี 1958 เป็นพื้นที่ที่ลึกลับที่สุดเพราะเป็นเขตหวงห้ามไม่ให ้คนนอกเข้าและมีการ รักษาความปลอดภัยสูงสุด แม้ทางการสหรัฐจะบอกว่าพื้นที่นี้เป็นเพียงสถานที่ทด สอบอาวุธหรือเครื่องบิน รบใหม่ของสหรัฐ แต่มีหลายคนบอกว่าอาจเป็นฐานทัพของมนุษย์ต่างดาวหรือ ไม่ก็สถานที่ติดต่อกับ มนุษย์ต่างดาว นั่นก็อาจจะเป็นเพราะมีคนจำนวนมาก อ้างว่าได้เห็นวัตถุบินลึกลับหรือ UFO (Unidentified Flying Object) บินอยู่เหนือบริเวณนั้นบ่อยครั้ง จนหลายคนสงสัยว่าบริเวณพื้นที่ 51 นั้นต้องมีอะไรมากกว่าสถานที่ซ้อมรบเครื่องบินรบ แน่นอน
เหตุการณ์ที่ 6 จานบินตกที่รอสเวลล์
ในปี ค.ศ.1948 เมืองรอสเวลล์ เกิดเหตุการณ์วัตถุบินลึกลับตกในพื้นที่ทะเลทรายของช าวเมืองนาม แม็ค บราเซิล วัตถุชิ้นตกตกและชิ้นส่วนตกกระจัดกระจายเป็นวงกว้าง ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการก็มาถึงและเก็บวั ตถุในพื้นที่ที่เกิด เหตุจนหมด ซึ่งผลจากการตรวจสอบตอนแรกบอกว่าวัตถุที่ตกลงมานั้นเ ป็นวัตถุที่ไม่เคยมี อยู่ในโลก และแต่ละชิ้นโลหะมีคุณสมบัติแปลกประหลาด แต่ถึงอย่างไรเพราะอะไรไม่ทราบสาเหตุภายหลังทางการดั นกลับคำให้การบอกว่า วัตถุที่ตกลงมาเมืองรอสเวลล์นั้นคือหรือบอลลูนตรวจสภ าพอากาศ?
ทำไมต้องกลับคำผลการตรวจสอบ?? แล้ววัตถุบินลึกลับนั้นเป็นจานบินหรือไม่? ไม่มีใครทราบได้ แม้ว่าเหตุการณ์จะล่วงเลยมานานหลายสิบปีแล้วก็ตามแต่ หลายๆ ฝ่ายยังหวังว่าทางการสหรัฐจะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกั บเรื่องนี้
เหตุการณ์ที่ 7 การลักพาตัวเบตตี้และบาร์นีย์ ฮิลลส์ (betty and Barney Hill)
นี้คือการลักพาตัวที่โด่งดังที่สุดและเป็นครั้งแรกที ่มนุษย์ต่างดาวลักพาตัว คนในโลก


19 กันยายน 1961 ขณะที่เบตตี้และบาร์นีย์ ฮิลลส์ สองสามีภรรยาขับรถผ่านแดนทะเลทรายของรัฐนิวแฮมเชียร์ จู่ๆ ก็มีจานบินแล่นขวางหน้า และบังคับให้สองสามีภรรยาคู่นี้หยุดรอ
สิ่งมีชีวิตในยานนั้นมีอยู่ 5 คน(ตัว) สูง 5 ฟุต ตาโต ไม่มีจมูก และผิวหนังสีเทา เมื่อคนพวกนี้มาใกล้ สองสามีภรรยาก็รู้สึกเหมือนสะกดจิต ทั้งคู่ถูกนำตัวเข้าไปในยานและถูกตรวจสอบทางกายภาพ มนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นสอบถามสองสามีภรรยาโดยใช้พลัง จิต แต่เมื่อเขาพูดกันเองก็พูดด้วยภาษาแปลกประหลาด
จากนั้นสองสามีก็ถูกลบความทรงจำ และถูกปล่อยตัวออกมา ซึ่งภายหลังสองสามีภรรยาคู่นี้ถูกสะกดจิต ทั้งคู่ก็เล่าเหตุการณ์นี้อย่างละเอียด จนเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างมาก จนต้องออกโทรทัศน์รายการพิเศษในปี 1975
เหตุการณ์ที่ 8 การชำแหละวัวในท้องทุ่ง (Cattle Mutilations)
9 มิถุนายน 2005 ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดวัวตายอย่างลึกลับจำนวนมากใ นท้องทุ่งในประเทศสหรัฐ อเมริกาและบราซิลและแถบอื่นๆ ทั่วโลก
โดยการตายลึกลับนี้แทบไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ จะสามารถทำได้ เพราะแต่ละพื้นที่วัวถูกฆ่าจำนวนมากโดยทั้งหมดนั้นลง มือเสร็จเพียงคืนเดียว โดย ส่วนใหญ่ท้องของวัวเคราะห์ร้ายถูกเจาะเป็นรูขนาดใหญ่ รูปไข่ ด้วยเครื่องมือบางอย่างและถูกทำให้ไหม้แต่ไม่ใช้เลเซ อร์หรือมีด และไม่มีเลือดไหลออกมาอวัยวะบางส่วนเช่น อวัยวะเพศ ลูกตาและเต้านมโดยเฉพาะลำไส้มักหายไป แต่ไม่มีร่องรอยการดิ้นรนเพื่อหนีความตายของวัวหรือแ ม้กระทั่งรอยเท้าใน บริเวณที่มันตาย
มีการศึกษาเพื่อไขปริศนาปรากฏการณ์นี้มีมานานแล้ว ในขณะที่มนุษย์มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แต่ทว่าก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่ามันเกิดจากอะไร
เหตุการณ์ที่ 9 วงกลมประหลาดบนทุ่งหญ้า (Crop Circles)
ในช่วงปี 1980 เกิดเหตุการณ์ประหลาดคือประจักษ์ต่อชาวโลก ใน 29 ประเทศ ทั่วโลก คือเกิดวงกลมประหลาด หรือสัญลักษณ์ประหลาดที่ทุ่งข้าวสาลี ข้าวบาเล่ห์ ข้าว และอื่นๆ
โดยจากรายงานการเกิด Crop Circles กว่า 10,000 ครั้ง
พบว่าในช่วงปลายปี 1980 นั้น Crop Circles ส่วนใหญ่รูปแบบจะออกมาในลักษณะเส้นตรงซึ่งจะออกมาคล้ ายๆกับสัญลักษณ์ แต่ภายหลังจากปี 1990 รูปแบบของ Crop Circles จะซับซ้อนมาก จนแทบไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์จะทำได้ นอกเสียจากจะเป็นมนุษย์ต่างดาว แล้วหาเป็นมนุษย์ต่างดาวจริง พวกเขาจะทำทำไม มันเป็นสัญญาบอกชาวโลกหรือ หรือว่าเป็นที่จอดยานบิน หรือว่าเป็นการเล่นสนุก??
เหตุการณ์ที่ 10 เทปวีดีโอผ่าตัดมนุษย์ต่างดาว
ในปี 1992 ผู้สร้างภาพยนต์เรย์ ซานติลี อ้างว่าได้ซื้อฟิล์มภาพยนต์ขนาด 16 มิลลิเมตร มีความยาวกว่า 91 นาที(ไม่เปิดเผยถึงราคาที่ซื้อมา) เป็นฟิล์มภาพยนต์ที่เกี่ยวกับการผ่าตัดซากมนุษย์ต่าง ดาวหลังเหตุการณ์การตก ที่รอสเวลส์โดยซื้อมาจากช่างภาพของกองทัพ(ไม่เปิดเผย ชื่อ)ที่ถูกมอบหมายให้ ทำการถ่ายภาพยนต์การผ่าศพมนุษย์ต่างดาวที่ Fort Worth, Texas เพื่อทำการถ่ายภาพยนต์
จนกระทั่งในปี 1995 ภาพยนต์ชุดนี้ได้ถูกนำมาออกแสดง และเครือข่ายทีวีของ FOX นำภาพยนต์ชุด นี้ออกอากาศในรายการ One-hour special ผลปรากฏว่ามีคนสนใจดูมากจนต้องมีการนำมาออกอากาศซ้ำอ ีกถึงสี่ครั้งหลังจาก นั้นทำให้มีการถ่ายถอดออกไปใน อังกฤษ , เยอรมัน , ฮอลล์แลนด์ , บราซิล และอิตาลี
ที่มาจาก:Google

อุปกรณ์ของนัก MOD

1.เจียจิ้ววว ตัวมอเตอร์แรงเต็มหนี่ยว ปรับความเร็ว 6 ระดับ พร้อมสายอ่อนหัวขัด+ตัด 1 ชุด ราคา 900 บาท



2.สว่านขนาดเล็ก หมุน ซ้าย ขวา พร้อมหัวเจาะ 1 ชุด ราคา 600 บาท
 
3.เลื่อยจิ๊กซอล พร้อมใบเลื่อย 1 ชุด ราคา 650 บาท
 
4.ลูกหนู ลูกหมู แล้วแต่จะเรียก พร้อมใบ 1 ชุด ราคา 1,300 บาท
 
5.ชุดใบโฮซอล 300 บาท -ใช้กับสว่านมือนะครับ
 
6.กาพ่นสีใหญ่ 550 บาท
 
7.กาพ่นสีเล็ก 350 บาท
 
8.ปากกาแอร์บัส 550 บาท
 
Credit:oatzila @Overclockzone

30 สิ่ง น่าทำ ตอนที่ยังมีชีวิต

1. ทำอะไรที่น่าตื่นเต้นในแต่ละวัน
2. ไปเที่ยวที่ที่คุณไม่เคยไป กับคนที่คุณไม่เคยคิดจะลืม


3. ซื้อความสุข ด้วยรอยยิ้ม

4. คุยกับคนแปลกหน้า เพื่อหาเพื่อนใหม่
5. ช่วยคนอื่น เมื่อคุณสามารถช่วยได้

6. สังเกตสิ่งรอบๆตัว อาจพบความสุขเล็กๆ เข้ามาในชีวิต

7. อยู่เงียบๆ กับตัวเองวันละ 5 นาที... เพื่อคิด


8. ทุ่มตัวเองเต็มที่ กับการหาทางแก้ปัญหา ที่คุณกำลังเผชิญอยู่
9. คบคนที่มองโลกในแง่ดี

10. เข้าคอร์สเรียนเพิ่มเติม ในเรื่องที่คุณสนใจ


11. จัดเวลา นัดเจอ เพื่อนสนิท ในแต่ละเดือน ไป กิน เที่ยว เล่น


12. มองพระอาทิตย์ขึ้น สัปดาห์ละครั้ง
13. ดูพระอาทิตย์ตกดิน สัปดาห์ละครั้ง


14. ปลูกผักเอง เอาไว้ทานเอง


15. ไปหาเพื่อน ที่ไม่ได้เจอกันมานานนับปี


16. หยุดตามกระแสสักนิด และทำตามแนวคิดที่เหมาะสำหรับตัวเอง
17. บอกตัวเองว่า ไม่มีอะไรสายเกินไป


18. ค้นหา ประสบการณ์ดีๆ แปลกใหม่ ให้กับชีวิต


19. เลิกกังวลกับสิ่งที่คุณไม่มี และมีความสุขในสิ่งที่คุณมี


20. โรแมนติก ทำเซอร์ไพรซ์คนที่คุณรัก


21. หยุดเสียเวลา กับเรื่องหยุมหยิมที่ไม่จำเป็น


22. รับประทานอาหารให้ช้าลง ลิ้มรสความอร่อย


23. ขอความช่วยเหลือ เมื่อต้องการ เพราะคุณจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ หากไม่เอ่ยปาก


24. ถามคำถาม เมื่อสงสัย... ช่วยประหยัดเวลา และลดความยุ่งยากใจ
25. เล่นสนุกบ้าง ชีวิตมีแค่ครั้งเดียว

26. ทำอะไรทีละอย่าง จะได้ทำออกมาได้ดี


27. ฝึกความพอเพียง – พอดี เมื่อมันเกิดขึ้นกับคุณ จะไม่มีใคร เอาไปจากคุณได้


28. รักษาสัญญา
29. ดูตลก ฟังเรื่องตลก และแบ่งปันกับคนอื่น


30. เปิดโลกความคิดสร้างสรรค์ของคุณ กับงานศิลปะ เช่นดนตรี ภาพถ่าย ภาพยนตร์ ฯลฯ -


--------------------------------------------------------------------------------------------------------


เครดิต http://variety.teenee.com/foodforbrain/25729.html


เครื่องหมายสวัสดิกะ

เครื่องหมายสวัสดิกะ (สวัสติกะ) อันเป็นรูปกากบาทปลายหัก คนส่วนใหญ่เมื่อเห็นแล้วก็นึกถึงพรรคนาซีและฮิตเลอร์ ซึ่งแท้จริงแล้วเครื่องหมายสวัสดิกะนี้ เป็นเครื่องหมายอันเป็นมงคลสูงยิ่ง ที่น้อยคนนักจะรู้จัก เป็นส่วนหนึ่งในเทพปกรณัมที่ควรศึกษ าและถูกบันทึกอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน


สวัสดิกะ หรือ สวัสติกะ คือ เครื่องหมายแห่งพลวัตร การเคลื่อนไหว ความไม่หยุดนิ่ง ความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เป็นเครื่องหมายแห่งการหล่อเลี้ยงสรรพชีวิต

เครื่องหมายสวัสดิกะ ได้ปรากฏในงานศิลปะมาหลายยุคสมัย โดยเฉพาะในสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาฮินดู ศาสนาเชน แม้แต่ศาสนาพุทธ หลายๆประเทศในแถบเอเชีย กรีก ยุโรป และอเมริกันพื้นเมือง จะใช้เครื่องหมายสวัสดิกะเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อสาร โดยเฉพาะการใช้เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาและเทพเจ้า
ในภาพเขียนพระพิฆเนศ ของอินเดียส่วนใหญ่ จะมีเครื่องหมายสวัสดิกะ วาดไว้ให้อยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพเขียนนั้นๆ เช่น กลางหน้าผาก บริเวณงวง ฝ่าพระหัตถ์ หรือปรากฏในส่วนอื่นๆ ที่ไม่ใช่บนพระวรกายของพระพิฆเณศ เช่น บนหนังสือ ฝาผนัง ที่ประทับนั่ง ฯลฯ เมื่อชาวฮินดูพบเห็นสัญลักษณ์สวัสติกะนี้ ก็จะให้ความเคารพ เฉกเช่นเดียวกับ เครื่องหมายโอม
ความหมายของสวัสดิกะในแรกเริ่มนั้น จะถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งความดีงาม ความอุดมสมบูรณ์ เป็นเครื่องหมายแทนตัวของเทพเจ้า แต่ภายหลังก็ถูกเปลี่ยนแนวคิดไปโดยสิ้นเชิง เมื่อมันกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของพรรคนาซีในเยอรมนี ที่ก่อตั้งโดยฮิตเลอร์ ทำให้คนทั่วไปมองว่าเครื่องหมายนี้เป็นสัญลักษณ์ของเ ผด็จการ และนำไปสู่ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับความหมายของสวัสดิกะ ในประเทศอื่นๆ อีกด้วย
เครื่องหมายสวัสติกะของพรรคนาซี ( ซ้าย ) --- เครื่องหมายสวัสติกะขององค์พระพิฆเณศ ( ขวา )


ความแตกต่างของเครื่องหมายพรรคนาซี และเครื่องหมายพระพิฆเนศ

เครื่องหมายสวัสติกะของพรรคนาซี จะเอียง 45 องศา และไม่มีจุด


ส่วนเครื่องหมายสวัสติกะของพระพิฆเนศ จะตั้งตรง ไม่เอียง และมีจุด 4 จุดอยู่ระหว่างแขนทั้ง 4
สำหรับแขนที่หักออกนั้น จะหักไปทางซ้ายหรือขวา ก็แล้วแต่จิตรกรจะวาดขึ้น โดยส่วนใหญ่จะมีแขนหักชี้ไปทางขวา (ชี้ไปตามเข็มนาฬิกา
สัญลักษณ์สวัสติกะ ถือเป็นเครื่องหมายที่เก่าแก่ที่สุดอย่างหนึ่งของโลก มีมาไม่ต่ำกว่า 5 พันปี บางตำราจะให้ความหมายว่า 4 แฉกของสัญลักษณ์สวัสดิกะนั้นหมายถึงพระกรทั้ง 4 ของพระพิฆเนศ หรือหมายถึงคัมภีร์พระเวททั้ง 4 เล่ม ส่วนในตำราของพุทธศาสนาฝ่ายมหายานก็ว่า 4 แฉกของสวัสดิกะนั้นหมายถึง ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งนิยมใช้คู่กับเครื่องหมาย หยิน-หยาง ตลอดจนการเป็นตัวแทนของธรรมจักร และอีกมากมายหลายตำรา ที่กล่าวถึงสวัสดิกะในแง่ของเครื่องหมายอันเป็นมา
เครื่องหมายสวัสติกะ สามารถนำมาใช้แก้ฮวงจุ้ยได้ โดยการแขวนหรือประดับไว้ในส่วนใดส่วนหนึ่งของที่พักอ าศัย เช่น ประตู ผนัง โต๊ะทำงาน ฯลฯ เพราะโบราณเชื่อว่าจะช่วยสลายพลังร้าย และทำให้ธาตุต่างๆในบ้านเรือนเกิดการหมุนเวียนอย่างส มดุล นำมาซึ่งความสวัสดิมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย


ฉะนั้น การประดับเครื่องหมายสวัสติกะไว้ในบ้านเรือน หรือบริษัทห้างร้าน ควบคู่กับเครื่องหมายโอมอันศักดิ์สิทธิ์ ย่อมจะนำมาซึ่งความโชคดี ความสำเร็จและชัยชนะต่อศัตรู